เริ่มต้นโดยการคลิกที่ "กรอกแบบฟอร์ม"
ตอบคำถามบางข้อแล้วเอกสารของคุณก็จะถูกสร้างขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
เอกสารของคุณพร้อมแล้ว คุณจะได้รับเอกสารดังกล่าวในรูปแบบ Word และ PDF ซึ่งคุณสามารถทำการแก้ไขได้
คุณสามารถเลือกที่จะขอรับความช่วยเหลือจากทนายความได้หลังจากกรอกเอกสารเสร็จแล้ว
ปรับปรุงล่าสุด 16/07/2567
รูปแบบที่มีให้ Word และ PDF
ขนาด 7 ถึง 10 หน้า
ตัวเลือก ความช่วยเหลือจากทนายความ
กรอกแบบฟอร์มสัญญาประนีประนอมยอมความ หรือบันทึกข้อตกลงประนีประนอมยอมความ (Settlement Agreement) คือ สัญญาซึ่งมีคู่สัญญา 2 ฝ่าย (เช่น คู่พิพาท คู่ความ) อันได้แก่ ผู้รับสัญญา (เช่น ผู้เสียหาย โจทก์) และผู้ให้สัญญา (เช่น ผู้กระทำความเสียหาย ผู้กระทำความผิด จำเลย) ตกลงร่วมกันระงับข้อพิพาท/ข้อขัดแย้งระหว่างกันโดยการผ่อนผันให้แก่กัน ซึ่งส่งผลให้สิทธิเรียกร้องตามข้อพิพาทเดิมระงับสิ้นไปและเกิดเป็นสิทธิเรียกร้องใหม่ตามที่คู่สัญญาได้ตกลงผ่อนผันและประนอมให้แก่กันในสัญญาประนีประนอมยอมความ
สัญญาประนีประนอมยอมความสามารถแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ คือ
(ก) การประนีประนอมยอมความนอกศาล คือ การที่คู่สัญญา (เช่น คู่พิพาท) ตกลงกันทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันนอกกระบวนพิจารณาคดีของศาล (เช่น ก่อนการฟ้องข้อพิพาทเป็นคดีต่อศาล หรือหลังจากศาลมีคำพิพากษา) ในกรณีเช่นนี้
(ข) การประนีประนอมยอมความในศาล คือ การที่คู่สัญญา (เช่น โจทก์และจำเลย) ตกลงกันทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในระหว่างกระบวนพิจารณาคดีของศาล ซึ่งมีศาลรับรู้ถึงข้อตกลงตามสัญญาประนีประนอมยอมความ (เช่น ตั้งแต่ศาลรับคำฟ้อง ไกล่เกลี่ย สืบพยาน หรือกระบวนการใดๆ ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา) ในกรณีเช่นนี้
การประนีประนอมยอมความเป็นหนึ่งในการระงับข้อพิพาททางเลือก (Alternative Dispute Resolution) ที่สะดวก รวดเร็ว และประหยัดทรัพยากร (เช่น เวลา ค่าใช้จ่าย และการดำเนินการ) ในขณะที่คู่สัญญาต่างก็ยังได้รับความเป็นธรรมและได้รับการชดเชยจนเป็นที่พอใจตามข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความที่ตนเป็นผู้ตกลงยอมรับนั้นเอง
โดยการประนีประนอมยอมความและการระงับข้อพิพาทอื่นๆ มีความแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
จำเป็น เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญจึงจะสามารถฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ คู่สัญญาจึงควรจัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นลายลักษณ์อักษรและให้คู่สัญญาหรือตัวแทนผู้มีอำนาจของคู่สัญญาลงนามในสัญญาประนีประนอมยอมความให้เรียบร้อย
ข้อพิพาท/ข้อขัดแย้งระหว่างคู่สัญญา (เช่น คู่พิพาท คู่ความ) ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ อาจแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังต่อไปนี้
คู่สัญญาควรระบุรายละเอียดและข้อความสำคัญในสัญญาประนีประนอมยอมความ ดังต่อไปนี้
ข้อสำคัญ: การเจรจาหรือข้อตกลงใดๆ ที่คู่สัญญาได้บรรลุในการประนีประนอมยอมความ คู่สัญญาควรนำมาระบุไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความให้เป็นลายลักษณ์อักษรทั้งสิ้น เพื่อมั่นใจว่าคู่สัญญาจะปฏิบัติตามข้อตกลงนั้นและคู่สัญญาจะได้รับการชดใช้เยียวยาจนเป็นที่พอใจและครบถ้วน
ในการจัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความ คู่สัญญาไม่สามารถตกลงกำหนดข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความที่มีลักษณะ ดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อความสมบูรณ์ของสัญญาประนีประนอมยอมความ
ข้อสำคัญ: ข้อพิพาททางอาญาที่เกิดจากการกระทำความผิดต่อแผ่นดิน (เช่น ทำร้ายร่างกาย ลักทรัพย์ ฉ้อโกงประชาชน) เป็นความผิดที่ไม่สามารถยอมความกันได้ แม้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ก็ไม่ทำให้ความผิดอาญาดังกล่าวระงับไป เนื่องจากถือว่าเป็นข้อตกลงที่ขัดต่อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย เจ้าพนักงานมีหน้าที่ต้องดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป แต่ความรับผิดทางแพ่งที่เกิดจากการกระทำความผิดดังกล่าว (เช่น การชดใช้ค่าเสียหาย) ย่อมสามารถตกลงประนีประนอมยอมความกันได้
เมื่อเกิดข้อพิพาท/ข้อขัดแย้งระหว่างคู่สัญญา คู่สัญญาไม่จำเป็นจะต้องดำเนินการใดๆ ก่อนตามกฎหมายในการจัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความ
อย่างไรก็ดี ก่อนการจัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความ คู่สัญญาควรเจรจา ตกลง และตรวจสอบให้มั่นใจว่าสิทธิเรียกร้องและความรับผิดใหม่ตามที่คู่สัญญาจะตกลงกันไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นเป็นที่พอใจและครอบคลุมความเสียหายใดๆ อย่างครบถ้วนแล้ว เนื่องจากเมื่อคู่สัญญาเข้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความย่อมทำให้สิทธิเรียกร้องและความรับผิดเดิมที่เป็นเหตุแห่งข้อพิพาท (เช่น หนี้ ความผิด) ระงับสิ้นสุดลงและก่อสิทธิเรียกร้องและความรับผิดใหม่ตามที่คู่สัญญาได้ตกลงกันไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความ คู่สัญญาจะไม่สามารถกลับไปอ้างสิทธิเรียกร้องและความรับผิดเดิมที่ระงับไปแล้ว
บุคคล/คู่สัญญา (เช่น คู่พิพาท คู่ความ) ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ได้แก่
ในกรณีการประนีประนอมยอมความในศาล การแต่งตั้งทนายหรือมอบอำนาจให้ทนายความดำเนินการเจรจาและตกลงประนีประนอมยอมความแทนคู่ความนั้น คู่ความจะต้องระบุไว้ในหนังสือแต่งตั้งทนายหรือหนังสือมอบอำนาจไว้อย่างชัดแจ้งว่าทนายความมีอำนาจประนีประนอมยอมความแทนคู่ความได้ เนื่องจากการประนีประนอมยอมความถือเป็นกระบวนพิจารณาไปในทางจำหน่ายสิทธิของคู่ความ
คู่สัญญา (เช่น คู่พิพาท คู่ความ) ที่จะลงนามเข้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความจะต้องเป็นบุคคลผู้มีความสามารถในการทำนิติกรรมอย่างสมบูรณ์ (เช่น ผู้บรรลุนิติภาวะ อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ ไม่เป็นผู้ทุพพลภาพ) และ/หรือเป็นตัวแทนผู้มีอำนาจกระทำการของคู่สัญญา เท่านั้น
คู่สัญญาจัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นลายลักษณ์อักษรและให้คู่สัญญาหรือตัวแทนผู้มีอำนาจของคู่สัญญา รวมถึงพยาน (ถ้ามี) ลงนามในสัญญาดังกล่าวให้เรียบร้อย ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญจึงจะสามารถฟ้องร้องบังคับคดีกันได้
เมื่อจัดทำและลงนามในสัญญาประนีประนอมยอมความเรียบร้อยแล้ว คู่สัญญาอาจพิจารณาดำเนินการ ดังต่อไปนี้
คู่สัญญาอาจจัดทำคู่ฉบับของสัญญาประนีประนอมยอมความอย่างน้อย 2 ฉบับ เพื่อให้คู่สัญญาแต่ละฝ่ายเก็บไว้อ้างอิงเป็นหลักฐานได้ฝ่ายละ 1 ฉบับ
คู่สัญญาแต่ละฝ่ายควรขอเอกสารแสดงตัวตนของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งที่ลงนามรับรองสำเนาถูกต้องมาเก็บไว้ประกอบสัญญาฉบับที่ตนเองถือไว้ด้วย เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง หนังสือรับรองและบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล (กรณีนิติบุคคล) รวมถึง หนังสือมอบอำนาจ ในกรณีที่มีการมอบอำนาจ
ข้อสำคัญ: สัญญาประนีประนอมยอมความย่อมทำให้สิทธิเรียกร้องและความรับผิดเดิมที่เป็นเหตุแห่งข้อพิพาท (เช่น หนี้ ความผิด) ระงับสิ้นสุดลงและก่อสิทธิเรียกร้องและความรับผิดใหม่ตามที่คู่สัญญาได้ตกลงกันไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความ
คู่สัญญาอาจพิจารณาแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสัญญาประนีประนอมยอมความ (ถ้ามี) เพื่อความชัดเจนและความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันระหว่างคู่สัญญา เช่น
ไม่จำเป็น คู่สัญญาไม่จำเป็นจะต้องดำเนินการจดทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องใดๆ ในการจัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความ
อย่างไรก็ดี ในกรณีการประนีประนอมยอมความในศาล คู่ความย่อมต้องแจ้งการจัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลที่พิจารณาคดีเพื่อให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาตามกฎหมายต่อไป (เช่น การช่วยไกล่เกลี่ย ตรวจสอบข้อตกลง และการพิพากษาไปตามข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความ)
ไม่จำเป็น กฎหมายไม่ได้กำหนดให้สัญญาประนีประนอมยอมความจำเป็นจะต้องมีพยานลงนามด้วย
อย่างไรก็ดี คู่สัญญาอาจพิจารณาจัดให้มีพยานลงนามในสัญญาประนีประนอมยอมความตามที่เห็นสมควรด้วยก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ พยานควรเป็นบุคคลผู้มีความสามารถในการทำนิติกรรมอย่างสมบูรณ์ (เช่น ผู้บรรลุนิติภาวะ อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ ไม่เป็นผู้ทุพพลภาพ) และไม่ใช่บุคคลที่มีหน้าที่/ภาระผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความ (เช่น คู่สัญญา)
เมื่อจัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว คู่สัญญาจะต้องยึดอายุความตามสิทธิเรียกร้องใหม่ที่เกิดขึ้นตามสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งมีกำหนดอายุความ 10 ปี ไม่ว่าสิทธิเรียกร้องเดิมจะมีกำหนดอายุความเท่าใด โดยอายุความตามสิทธิเรียกร้องเดิมย่อมสะดุดหยุดลง
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความมี ดังต่อไปนี้
คุณสามารถเลือกที่จะปรึกษาทนายความได้ในกรณีที่คุณต้องการความช่วยเหลือ
ทนายความสามารถช่วยคุณได้โดยทำการตอบคำถามของคุณหรือให้ความช่วยเหลือในกระบวนการต่าง ๆ จะมีการเสนอตัวเลือกดังกล่าวไว้ให้คุณในตอนท้ายของเอกสาร
คุณกรอกแบบสอบถามสำหรับป้อนข้อมูลแล้วจะเห็นได้ว่าระบบของเราจะค่อย ๆ สร้างเอกสารขึ้นเองโดยอัตโนมัติตามคำตอบที่คุณกรอกเข้าไป
ในตอนสุดท้าย คุณจะได้รับเอกสารในรูปแบบ Word และ PDF คุณสามารถแก้ไขและนำเอกสารไปใช้อีกได้
คู่มือเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่คุณ : ถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ต้องทำอย่างไร?
สัญญาประนีประนอมยอมความ - ตัวอย่างแบบฟอร์ม
ประเทศ: ประเทศไทย