เริ่มต้นโดยการคลิกที่ "กรอกแบบฟอร์ม"
ตอบคำถามบางข้อแล้วเอกสารของคุณก็จะถูกสร้างขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
เอกสารของคุณพร้อมแล้ว คุณจะได้รับเอกสารดังกล่าวในรูปแบบ Word และ PDF ซึ่งคุณสามารถทำการแก้ไขได้
คุณสามารถเลือกที่จะขอรับความช่วยเหลือจากทนายความได้หลังจากกรอกเอกสารเสร็จแล้ว
ปรับปรุงล่าสุด 24/01/2567
รูปแบบที่มีให้ Word และ PDF
ขนาด 9 ถึง 13 หน้า
ตัวเลือก ความช่วยเหลือจากทนายความ
คะแนน 5 - 3 คะแนนโหวต
กรอกแบบฟอร์มสัญญาโอนลิขสิทธิ์ หรือหนังสือสัญญาโอนลิขสิทธิ์ คือ สัญญาซึ่งมีคู่สัญญา 2 ฝ่าย ได้แก่ ผู้โอนซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ (เช่น ผู้สร้างสรรค์งาน ผู้แต่ง ผู้ประพันธ์) ฝ่ายหนึ่ง และผู้รับโอน (เช่น ผู้ซื้อ ผู้รับการให้ซึ่งลิขสิทธิ์) อีกฝ่ายหนึ่ง โดยที่ ผู้โอนตกลงจะโอนสิทธิความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานอันมีลิขสิทธิ์ให้แก่ผู้รับโอนตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญาฉบับนี้ โดยผู้รับโอนจะมีสถานะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ต่อจากผู้โอน โดยอาจมีค่าตอบแทน (เช่น ซื้อขาย ว่าจ้าง) หรือไม่มีค่าตอบแทน (เช่น ให้เปล่า) ก็ได้ โดยการโอนลิขสิทธิ์ในงานอันมีลิขสิทธิ์อาจเป็นงานประเภทต่างๆ ดังต่อไปนี้
สัญญาโอนลิขสิทธิ์ เป็นการโอนสิทธิอย่างเด็ดขาดในความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์จากผู้โอนให้แก่ผู้รับโอน จึงอาจนำมาใช้ในกรณี ดังต่อไปนี้
ในกรณีที่ผู้โอนต้องการสงวนสิทธิเด็ดขาด/สิทธิความเป็นเจ้าของในลิขสิทธิ์นั้นไว้ แต่ต้องการให้ผู้รับโอนใช้ประโยชน์ในลิขสิทธิ์ภายในระยะเวลาหนึ่งตามขอบเขตและเงื่อนไขที่ผู้โอนกำหนด (เช่น ให้ใช้ตีพิมพ์เป็นหนังสือเพื่อจำหน่ายเป็นระยะเวลา 5 ปี โดยต้องจ่ายค่าสิทธิทุกๆ ปีให้แก่ผู้โอน) ในกรณีเช่นนี้ คู่สัญญาควรเลือกใช้ สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ ซึ่งถูกร่างขึ้นสำหรับการอนุญาตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาโดยเฉพาะ (เช่น ลิขสิทธิ์) ซึ่งสิทธิเด็ดขาด/สิทธิความเป็นเจ้าของในลิขสิทธิ์จะยังคงเป็นของผู้อนุญาต โดยผู้ได้รับอนุญาตจะมีสิทธิใช้ลิขสิทธิ์ตามขอบเขต เงื่อนไข ระยะเวลา และค่าตอบแทนที่คู่สัญญากำหนดตกลงกัน เท่านั้น
การนำไปใช้
ในการจัดทำสัญญาโอนลิขสิทธิ์ ผู้จัดทำควรมีข้อพิจารณา ดังต่อไปนี้
ผู้จัดทำควรระบุรายละเอียดและข้อความสำคัญในสัญญาฉบับดังกล่าว โดยละเอียดและครบถ้วน เช่น
ในกรณีที่มีเอกสารอ้างอิงที่เกี่ยวข้องกับงานอันมีลิขสิทธิ์ที่ต้องการโอน (เช่น แบบ รายละเอียด เนื้อหาของผลงาน งานต้นฉบับ หรือหนังสือรับรองการแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์) คู่สัญญาอาจพิจารณาแนบเอกสารเหล่านี้เป็นเอกสารแนบท้ายสัญญา เพื่อความชัดเจนและความเข้าใจที่ตรงกันในลิขสิทธิ์ที่โอน
เมื่อผู้จัดทำระบุรายละเอียดและข้อความสำคัญในสัญญาครบถ้วนแล้ว ผู้จัดทำควรจัดทำสัญญาโอนลิขสิทธิ์เป็นลายลักษณ์อักษร และให้คู่สัญญาหรือตัวแทนผู้มีอำนาจของคู่สัญญา รวมถึงพยานด้วย (ถ้ามี) ลงนามในสัญญาฉบับดังกล่าวให้เรียบร้อย ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์กำหนดให้การโอนลิขสิทธิ์ต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอน โดย คู่สัญญาอาจจัดทำคู่ฉบับของสัญญาอย่างน้อย 2 ฉบับ เพื่อให้คู่สัญญาแต่ละฝ่ายเก็บไว้ใช้อ้างอิงเป็นหลักฐานได้ฝ่ายละอย่างน้อย 1 ฉบับ
คู่สัญญาแต่ละฝ่ายควรขอเอกสารแสดงตัวตนของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งที่ลงนามรับรองสำเนาถูกต้องมาเก็บไว้ประกอบสัญญาฉบับที่ตนเองถือไว้ด้วย เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง หนังสือรับรองและบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล (กรณีนิติบุคคล)
ในกรณีที่งานอันมีลิขสิทธิ์ได้จดแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ไว้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา คู่สัญญาก็ควรจะดำเนินการจดแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อให้ข้อมูลในทะเบียนข้อมูลลิขสิทธิ์มีความถูกต้อง สอดคล้อง และตรงกันกับการโอนลิขสิทธิ์ตามสัญญาฉบับนี้
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ความช่วยเหลือจากทนายความ
คุณสามารถเลือกที่จะปรึกษาทนายความได้ในกรณีที่คุณต้องการความช่วยเหลือ
ทนายความสามารถช่วยคุณได้โดยทำการตอบคำถามของคุณหรือให้ความช่วยเหลือในกระบวนการต่าง ๆ จะมีการเสนอตัวเลือกดังกล่าวไว้ให้คุณในตอนท้ายของเอกสาร
แก้ไขแบบฟอร์มได้อย่างไร
คุณกรอกแบบสอบถามสำหรับป้อนข้อมูลแล้วจะเห็นได้ว่าระบบของเราจะค่อย ๆ สร้างเอกสารขึ้นเองโดยอัตโนมัติตามคำตอบที่คุณกรอกเข้าไป
ในตอนสุดท้าย คุณจะได้รับเอกสารในรูปแบบ Word และ PDF คุณสามารถแก้ไขและนำเอกสารไปใช้อีกได้
คู่มือเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่คุณ : การโอนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาต้องทำอย่างไร?
ชื่ออื่น ๆ ของเอกสารได้แก่
บันทึกข้อตกลงโอนลิขสิทธิ์, สัญญาซื้อขายลิขสิทธิ์, บันทึกข้อตกลงซื้อขายลิขสิทธิ์, สัญญายกให้ซึ่งลิขสิทธิ์, บันทึกข้อตกลงยกให้ซึ่งลิขสิทธิ์
ประเทศ: ประเทศไทย